การทดสอบ (Seismic Integrity Test)
>>>>วิธีการทดสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็ม
โดยวิธี SEISMIC INTEGRITY TESTING


1.ทำการขุดเปิดหัวเสาเข็มและสกัดเนื้อคอนกรีตจนถึงระดับใช้งานและถึงเนื้อคอนกรีตที่ดี
2.ใช้น้ำล้างหัวเสาเข็มให้สะอาด
4.ทำการติด Accelerometer Sensor (หัววัดสัญญาณ) บนหัวเสาเข็มโดยใช้ดินน้ำมันยึดให้แน่นจากนั้นเคาะด้วยค้อนทดสอบบนรอบๆ หัวเสาเข็มตามตำแหน่งที่ต้องการ ทดสอบ
5.บันทึกสัญญาณคลื่นความเค้นที่มีผลต่อความบกพร่องของเสาเข็ม อย่างน้อยต้นละ 3 ครั้ง
6.นำผลไปวิเคราะห์สภาพความสมบูรณ์ต่อไป
เครื่องมือทดสอบ
1.Profound SIT-Series (SIT)
2.Accelerometer Sensor หัววัดสัญญาณคลื่นความเค้น ความไวสูง
3.SIT-series, software version 7.9*
4.Hand Held Hammer ค้อนทดสอบน้ำหนักไม่น้อยกว่า 0.50 กก.
5.อุปกรณ์ประกอบอื่นๆ


หลักการวิเคราะห์สัญญาณ
การตรวจสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็ม อาศัยการส่งคลื่นความเค้น (Stress Wave) จากหัวเสาเข็มผ่านลงไปถึงปลายเสาเข็ม และ บันทึกคลื่นความเค้นที่สะท้อนกลับมาที่เดิม หากเกิดความไม่ต่อเนื่องของเนื้อคอนกรีตอันเกิดจากรอยแตกร้าวหรือเนื้อคอนกรีตไม่ดี หรือหน้าตัดเสาเข็มมีขนาดเพิ่มขึ้นหรือลดลง คลื่นสัญญาณที่สะท้อนกลับก็จะแสดงผลและถูกบันทึกไว้ด้วยเครื่องมือทดสอบ การพิจารณาสภาพความสมบูรณ์ของเสาเข็มอาศัยหลักการ ดังนี้
1.พิจารณาสัญญาณที่วิ่งผ่านเนื้อคอนกรีตว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ระยะใด
2.พิจารณาค่าความเสียหายจากค่าดัชนีความสมบูรณ์ (ฺฺBeta)
>>>>ฺฺฺ Beta > 0.90 ---------> สภาพสมบูรณ์
>>>>ฺฺฺ 0.90 > Beta > 0.80 ---------> สภาพเสียหายเล็กน้อย
>>>>ฺฺฺ 0.80 > Beta > 0.70 ---------> สภาพเสียหาย
>>>>ฺฺฺ 0.70 > Beta > 0.60 ---------> สภาพเสียหายมาก
>>>>ฺฺฺ Beta > 0.60 ---------> ไม่สามารถนำไปใช้งานได้
ข้อจำกัดของเครื่องมือทดสอบ
1.สามารถตรวจสอบได้เฉพาะลักษณะทางกายภาพที่เกิดจากรอยคอด รอยแตกร้าว หรือสภาพความสมบูรณ์ ของเนื้อคอนกรีตเท่านั้น ผลการทดสอบไม่ได้มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกของเสาเข็มแต่อย่างใด
2.ตำแหน่งจุดบกพร่องที่สามารถตรวจพบได้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน หากมีการเปลี่ยนแปลงทีละน้อยอย่างต่อเนื่องจะไม่สามารถตรวจพบได้
3.เสาเข็มตอกที่มีการเชื่อมต่อ จะสามารถตรวจได้เฉพาะท่อนบนเท่านั้น เนื่องจากคลื่นสัญญาณไม่สามารถวิ่งผ่านลงไปในเสาเข็มท่อนล่างได้
4.ต้องทำการทดสอบบนเนื้อคอนกรีตที่ดีเท่านั้น มิฉะนั้นคลื่นสัญญาณจะไม่สามารถวิ่งผ่านเข้าไปในตัวเสาเข็มได้ หรืออาจจะแสดงผลสัญญาณที่ผิดพลาดว่าเสาเข็มไม่สมบูรณ์
5.เสาเข็มที่มีความยาวมากๆ ค่าแรงเสียดทานที่ผิว (skin Friction) อาจทำให้สัญญาณเปลี่ยนแปลงไปได้